วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บริษัทซัมมิทจัดทำกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปี2555 ให้กับพนักงาน



บริษัทซัมมิทจัดทำกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปี2555 ให้กับพนักงาน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2555 บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด  ได้มีความห่วงใยในสุขภาพของพนักงาน จึงได้จัดทำกิจกรรม ตรวจสุขภาพประจำปี2555 ให้แก่พนักงานของบริษัทฯ  ตามแผนงานความปลอดภัย มาตรา  ๑๐๗  แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ 
กำหนดการตรวจสุขภาพ พนักงาน ประจำปี 2555  ในวันเสาร์ ที่ 18 สิงหาคม 2555 เวลา 08: 00 น. - 17: 00 น.  โดยศูนย์ตรวจวิเคราะห์และวิจัยทางการแพทย์  บริษัท ไลฟ? ไดแอ็ก จำกัด โปรแกรมการตรวจสุขภาพ มี 5 รายการดังนี้
1.  ตรวจทั่วไปโดยแพทย์
2.  การวัดดัชนีมวลกาย
3.  ตรวจวัดสายตา สั้น ยาว เอียง และบอดสี
4.  ตรวจสมรรถภาพกล้ามเนื้อมือ
5. เอ็กซเรย์ทรวงอกระบบดิจิตอล
และยังมีรายการตรวจเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจ  ทั้งนี้การตรวจสุขภาพเพิ่มเติมต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง  แต่ราคาไม่สูงมากประมาณชนิดละ 30 - 200  บาท  เท่านั้นเอง  ทำให้มีพนักงานขอรับบริการตรวจสุขภาเพิ่มเติมกันเป็นจำนวนมากเลยที่เดียว  และได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารและพนักงานเป็นอย่างดี ไปดูภาพบรรยากาศภายในงานว่าเป็นอย่างไรกันล้าง 


บันทึกหลักการและเหตุผล
ประกอบกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง
และส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๗
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักการ
กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง  และส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน
เหตุผล
โดยที่มาตรา  ๑๐๗  แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑  บัญญัติให้รัฐมนตรีว่า การกระทรวงแรงงานมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง  และส่งผลการตรวจแก่พนักงานแรงงาน  จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง
กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง
และส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๗
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
                 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๑๐๗  แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑  อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา  ๒๙  ประกอบกับมาตรา  ๓๑  มาตรา  ๓๕  มาตรา ๔๘  และมาตรา  ๕๐  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามทบบัญญัติแห่งกฎหมาย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงได้ ดังต่อไปนี้
                 ข้อ ๑  กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
                 ข้อ ๒  ในกฎกระทรวงนี้
                “การตรวจสุขภาพ”  หมายความว่า  การตรวจร่างกายและสภาวะทางจิตใจตามวิธีทางการแพทย์เพื่อให้ทราบถึงความเหมาะสม  และผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจ้างอันอาจเกิดจากการทำงาน
                “งานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง”  หมายความว่า  งานที่ลูกจ้างทำเกี่ยวกับ
                (๑)  สารเคมีอันตรายตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
                (๒)  จุลชีวันเป็นพิษซึ่งอาจเป็นเชื้อไวรัส  แบคทีเรีย  รา  หรือสารชีวภาพอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
                (๓)  กัมมันตภาพรังสี
                (๔)  ความร้อน  ความเย็น  ความสั่นสะเทือน  ความกดดันบรรยากาศ  แสง  เสียง  หรือสภาพแวดล้อมอื่นที่อาจเป็นอันตราย  ทั้งนี้  ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
 หมวด ๑
การตรวจสุขภาพ
-------------------------------
                 ข้อ ๓  ให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงโดยแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้านอาชีวเวชศาสตร์  หรือที่ผ่านการอบรมด้านอาชีวเวชศาสตร์  หรือที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาศกำหนด  โดยตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งแรกให้เสร็จสิ้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน  และตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งต่อไปอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
                ในกรณีที่ลักษณะหรือสภาพของงานที่เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงนั้น  มีความจำเป็นต้องตรวจสุขภาพตามระยะเวลาอื่น  ให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างตามระยะเวลานั้น
                ในกรณีนายจ้างเปลี่ยนงานของลูกจ้างที่มีอันตรายแตกต่างไปจากเดิม  ให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างทุกครั้งให้เสร็จสิ้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เปลี่ยนงาน
                 ข้อ ๔  ในกรณีที่ลูกจ้างหยุดงานสามวันทำงานต่อต่อกันเนื่องจากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยไม่ว่ากรณีใด ๆ นายจ้างอาจขอความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษา  หรือแพทย์ประจำสถานประกอบกิจการหรือจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างก่อนให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานอีกก็ได้

หมวด ๒
การบันทึกผล การแจ้ง และการส่งผลการตรวจสุขภาพ
-----------------------------------
                 ข้อ ๕  ในการตรวจสุขภาพของลูกจ้างตามข้อ ๓ ให้แพทย์ผู้ทำการตรวจบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับผลการตรวจสุขภาพ  โดยให้ระบุความเห็นของแพทย์ที่บ่งบอกถึงสภาวะสุขภาพของลูกจ้างที่มีผลกระทบหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือลักษณะงานที่ได้รับมอบหมายของลูกจ้าง  พร้อมทั้งลงลายมือชื่อแพทย์ผู้ทำการตรวจหรือให้ความเห็นในวันที่ทำการตรวจหรือให้ความเห็นนั้น
                 ข้อ ๖  ให้นายจ้างจัดให้มีสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด  และให้นายจ้างบันทึกผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างในสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้างตามผลการตรวจของแพทย์ทุกครั้งที่มีการตรวจสุขภาพ
                 ข้อ ๗  ให้นายจ้างเก็บบันทึกผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างตามข้อ ๓  รวมทั้งข้อมูลสุขภาพอื่นที่เกี่ยวข้อง  และพร้อมที่จะให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบได้ตลอดเวลาโดยให้เก็บไว้ ณ ที่ทำการของนายจ้างไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันสิ้นสุดของการจ้างแต่ละราย  เว้นแต่มีการร้องทุกข์ว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมีการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับโรคหรืออันตรายอย่างใดต่อสุขภาพของลูกจ้าง  แม้จะพ้นเวลาที่กำหนดให้นายจ้างเก็บรักษาเอกสารนั้นไว้จนกว่าจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว  ทั้งนี้  มิให้นายจ้างนำข้อมูลนั้นไปใช้ในทางที่เป็นโทษแก่ลูกจ้างโดยไม่มีเหตุอันสมควร 
                ข้อ ๘  ให้นายจ้างแจ้งผลการตรวจสุขภาพให้แก่ลูกจ้าง ดังนี้
                (๑)  กรณีผลการตรวจสุขภาพผิดปกติ  ให้แจ้งแก่ลูกจ้างผู้นั้นภายในระยะเวลาสามวันนับแต่วันที่ทราบผลการตรวจ
                (๒)  กรณีผลการตรวจสุขภาพปกติ  ให้แจ้งแก่ลูกจ้างผู้นั้นภายในระยะเวลาเจ็ดวันนับแต่วันที่ทราบผลการตรวจ
                ข้อ ๙  ในกรณีที่พบความผิดปกติของลูกจ้าง  หรือลูกจ้างมีอาการหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน  ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันที  และทำการตรวจสอบหรือหาสาเหตุของความผิดปกติเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน
                ให้นายจ้างส่งผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่พบความผิดปกติหรือการเจ็บป่วย  การให้การรักษาพยาบาลและการป้องกันแก้ไขต่อพนักงานตรวจแรงงานตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนดภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบความผิดปกติหรือการเจ็บป่วย
                 ข้อ ๑๐  ถ้าลูกจ้างผู้ใดมีหลักฐานทางการแพทย์จากสถานพยาบาลของราชการหรือที่ราชการยอมรับ  แสดงว่าไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมได้  ให้นายจ้างเปลี่ยนงานให้แก่ลูกจ้างผู้นั้นตามที่เห็นสมควร  ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างเป็นสำคัญ
                 ข้อ ๑๑  ให้นายจ้างมอบสมุดสุขภาพประจำตัวให้แก่ลูกจ้างเมื่อสิ้นสุดการจ้าง

ให้ไว้    วันที่  ๒๙  ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

( นางอุไรวรรณ  เทียนทอง )
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ประกาศในราชกิจจานุเบกษา  ฉบับกฤษฎีกา  เล่ม  ๑๒๒  ตอนที่  ๔ ก  วันที่  ๑๓  มกราคม  ๒๕๔๘ 

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิถีความสุขที่แตกต่างของมนุษย์


ความสุขที่แตกต่างของมนุษย์
ความสุขของมนุษย์เรานั้น มีความแตกต่างกันไปตามสันดาน และความชอบ ความเชื่อ และความแสวงหา หลายๆ คนพยายามขวนขวาย- ไขว้คว้า ให้ได้มา และก้าวเดินไปสู่เส้นทางที่ตนเชื่อว่าเป็นความสุข .... เลือกที่จะสุขแบบไหนก็แล้วแต่ใจปรารถนาเถอะแต่อย่าสนองความสุข-ความพึงพอใจของตนบนความทุกข์ของผู้อื่นละกัน... เพราะบาปกรรมจะสนองกลับ.....แทนที่จะสุข หรือสุขได้เพียงแค่ชั่วครู่-ชั่วยาม  ความทุกข์ก็จะมาเยือนในไม่ช้านาน
บางคน
               สุขกับการทำงาน
               สุขกับการศึกษาเรียนรู้
               สุขกับธรรมชาติ ที่สดใส  สวยงาม
               สุขกับการได้ชื่นชมมิติแห่งความงดงามอันสุนทรีย์ของศิลปะ
               สุขกับการฟังเสียงไพเราะของเพลง  และดนตรี
               สุขกับการอ่านหนังสือนวนิยาย หรือหนังสือที่ชื่นชอบ
               สุขกับการเล่นกีฬา  บริหารร่างกาย 
               สุขกับการผจญภัย ท้าทาย  ตื่นเต้น  เร้าใจ  กับสิ่งลึกลับ-ซับซ้อน
               สุขกับการแต่งตัว  สวยงาม  เพียบพร้อมไปด้วย Accessory
               สุขกับการได้อยู่กับคนที่เรารัก  ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น
               สุขกับการท่องเที่ยว ไปสถานที่ต่างๆ
               สุขกับการสรรหาอาหารอร่อยๆ รับประทาน                    

แต่มีคนบางประเภท... 
               สุขกับการนินทา  สอดรู้เรื่องของผู้อื่น  แบบสนุกปาก
              สุขกับหัวโขน ที่แบกไว้บนศรีษะ อย่างภาคภูมิใจ  ( เกียรติยศและศักดิ์ศรี)
               สุขกับอำนาจ  วาสนาที่คิดว่าอยู่เหนือผู้อื่น ...(วางท่าข่มไปเรื่อยๆ )
               สุขกับการเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง 2 ข้าง ( ระวังหกล้มไปแล้วไม่มีมือค้ำยัน ปากจะแตก)
               สุขกับการปั้นหน้า  ประจบสอพลอ โดยไม่เคอะเขิน
               สุขกับการหลอกตนเองไปวันๆ กับเปลือก- สิ่งจอมปลอมที่ไม่จีรังยั่งยืน
               สุขกับการรับฟังคำยกยอ-ปอปั้น  แม้จะตระหนักดีว่าเป็นเรื่องจริงไม่กี่เปอร์เซ็นต์
               สุขกับการเอารัด-เอาเปรียบผู้อื่นในสังคม  โดยไม่ละอายใจ

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วัดตาลเจ็ดช่อ จ.อ่างทอง


วัดตาลเจ็ดช่อ จ.อ่างทอง
วันแม่ 12 สิงหาคม 2555  เป็นวันดี  ได้พาครอบครัวไปทำบุญถวายผ้าป่าสามัคคี และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้าที่วัดตาลเจ็ดช่อ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 1 บ้านตาลเจ็ดช่อ ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง 14000 วัดตาลเจ็ดช่อ  เป็นหนึ่งในวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม เกือบทั่วประเทศ เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ดูจากคราบตะไคร่น้ำที่จับผนังอาคารแล้วเข้าไปยืนเทียบดู  ผมสูง 172  เซนติเมตร แต่คราบตะไคร่น้ำสูงกว่าหัวผมประมาณ 30 เซนติเมตร  เท่ากับระดับจากพื้นดินที่ผมยืนอยู่สูงขึ้นมา 2 เมตรที่น้ำท่วม  ในการที่ได้มาทำบุญในครั้งนี้ผมเห็นภาพแล้วซึ้ง..และสลดใจกับสังคม  อย่างไรก็ขอขอบคุณ คุณสมศรี ดำหริ พนักงาน aerosoft และคุณมานพ ดำหริ ที่ได้ชวนมาในครั้งนี้ ชาว aerosoft  มากันหลายคนครับแต่ผมจะไม่บอกมีใครบ้าง ดูภาพแล้วกัน  แต่อยากฝากถึงผู้บริหารของบริษัทฯ หรือคณะกรรมการ แพรวมใจสู้ภัยน้ำท่วมไว้พิจารณา  นี่ก็ฤดูฝน ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในปีนี้ว้พิจารณา้ภัยน้ำท่วมะไม่บอกมีใครบ้าง
ประวัติของวัด

เป็นวัดโบราณที่มีมาแต่ครั้งสมัยอยุธยา ปัจจุบันมีการซ่อมแซมจนกลายเป็นของใหม่เกือบทั้งวัด มีภาพเขียนจิตรกรรมตอนพระพุทธเจ้าถูกพญามารมาท้าทายก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ และภาพพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพระมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

วัดตาลเจ็ดช่อ เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของจังหวัดอ่างทอง โดยมีพระครูพิบูล พัฒนพิมล เป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระนักพัฒนาตัวอย่าง ก่อนหน้านี้โรงเรียนแห่งนี้เกือบโดนยุบเพราะ จำนวนนักเรียนของที่นี่มีน้อยเกินและถ้าหากโรงเรียนถูกยุบ เด็กที่อยู่แถวนั้นก็จะลำบากเป็นอย่างยิ่งในการเล่าเรียน เพราะมีพ่อ แม่ยากจน อีกทั้งเด็กบางคนก็กำพร้า ซึ่งเจ้าอาวาสได้รับเด็กกำพร้าและยากจนทั่วทุกจังหวัด ให้มาอยู่ในการอุปการะ ส่วนมากจะเป็นเด็กชาวเขาจากทางเหนือ ตอนนี้มีจำนวนเกือบสามร้อยชีวิต ทำให้เด็กที่กำพร้าและยากจนได้มีโอกาสได้รับการศึกษา ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นทางวัดยังสร้างโรงนอนให้กับเด็กๆอีกด้วย







นอกจากนี้วัดตาลเจ็ดช่อยังมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง